มนุษย์สามารถเดินทางไปได้ไกลสุดโลกจนถึงดวงดาว แต่กลับลืมเดินทางไปค้นหาสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็คือ..ตัวเราเอง จึงต้องดิ้นรนเดือดร้อนหน้าดำคร่ำเครียด ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เพราะไม่เคยพิจารณาชีวิตร่างกาย ไม่เคยฝึกหัดจิตใจ มัวไปแสวงหาวัตถุสิ่งของภายนอกที่นึกว่ามันจะให้ความสุขได้ แต่ความสุขแบบนี้มันไม่ยั่งยืน ไม่แน่นอน มันต้องเปลี่ยนแปลง จึงทำให้มันกลับกลายเป็นความทุกข์อยู่เสมอ ยิ่งวิ่งหาความสุขมากเท่าไร ความทุกข์ก็จะติดตามมาทีหลังมากขึ้นเท่านั้น แต่ชีวิตนี้ยังมีหนทางเดินออกไปหาความสุขประเภทที่ไม่ดิ้นรนแสวงหาวัตถุมาบำรุงบำเรอนั้นคือการทำใจให้สงบเกิดสมาธิ ได้พักผ่อนจิตใจบางครั้งบางคราว นี่คือขั้นตอนแรก ต้องให้จิตหยุดคิดก่อนความสงบจะเกิดขึ้น จะทำให้จิตมีพลังขึ้นมา ขั้นตอนต่อไป เมื่อจิตพักผ่อนเต็มที่แล้วให้รู้จักการพิจารณาด้วยปัญญา ก็คือ รู้จักเอาปัญหาต่างๆ มาคิดจะทำให้คิดออก แต่ต้องฝึกคิดให้ถูกต้องจึงจะหมดทุกข์ ไม่มีปัญหา (ความทุกข์ ก็คือการที่เราคิดแบบผิดๆ นี่เอง จึงแก้ไขปัญหาไม่ได้) ให้ถามตัวเองบ่อยๆ ว่า เราจะได้อะไรจากชีวิตนี้? ความสุขที่แท้จริงคืออะไร? เมื่อเราตายแล้ว เราจะเอาอะไรไปได้บ้าง? สิ่งที่มีค่ามากที่สุด ที่เราควรได้รับคืออะไร? แล้วเราจะได้คำตอบจากปัญญาเอง
(อ้างอิงจากคู่มือสวดมนต์ไหว้พร "อยู่กับทุกข์ ก็สุขได้" รวบรวมโดย พระอาจารย์ยุทธนา เดชปญโญ)
(อ้างอิงจากคู่มือสวดมนต์ไหว้พร "อยู่กับทุกข์ ก็สุขได้" รวบรวมโดย พระอาจารย์ยุทธนา เดชปญโญ)